วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558
How to : กระเป๋าปิ๊กแป๊ก งานควิลท์มือ
วิธีทำกระเป๋าปิ๊กแป๊กน่ารักๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเองพร้อมกับเทคนิคการปรับแบบให้พอดีกับปากปิ๊กแป๊ก และการวาดแพทฯ สำหรับกระเป๋าน่ารัก น่ารักใบนี้คะ
How to :กระเป๋าปิ๊กแป๊ก
วิธีปรับ และวาดแพทฯ กระเป๋าปิ๊กแป๊ก
็How to : Key cover น้องซู
วิธีทำที่เก็บกุญแจน้องซู (Key cover) ที่สาวกงานควิลท์จะรู้จักกันเป็นอย่างดี..."น้องซู" สัญลักษณ์ของหญิงแม่บ้านใส่หมวกตลอดเวลาโดยไม่เคยเห็นใบหน้า พร้อมสายคาดผ้ากันเปื้อนด้านหน้าในอิริยาบถต่างๆ ที่ถ่ายทอดออกมาในท่าทางหลากหลาย จนเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของหลายๆ คน
ลองมาติดตามชมวิธีการทำ Key cover สำหรับเก็บกุญแจไว้ใช้งานคะ ไม่ยาก. ^^
ลองมาติดตามชมวิธีการทำ Key cover สำหรับเก็บกุญแจไว้ใช้งานคะ ไม่ยาก. ^^
็How to : กระเป๋าสตางค์ใบสั้นน้องเหม่ง งานควิลท์มือ
วิธีทำกระเป๋าสตางค์ใบสั้นงานควิลท์มือ แบบง่ายๆ และน่ารักที่เอ๋นำเอามาฝากทุกคนคะ มี 2 ตอนจบ ^^
ลองหัดทำกันดูนะคะ
ลองหัดทำกันดูนะคะ
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
เทคนิคการต่อผ้าเฉลียงสำหรับทำกุ๊น
เทคนิคการต่อผ้าเฉลียงสำหรับทำกุ๊น
หากชิ้นงานที่เราต้องการกุ๊นขอบนั้นมีความยาวโดยรวมมากกว่าผ้าเฉลียงที่จะนำมาทำเป็นกุ๊น..เราสามารถนำผ้าเฉลียงมาต่อกันได้ง่ายด้วยเทคนิคตามคลิปวีดีโอคะ
หากชิ้นงานที่เราต้องการกุ๊นขอบนั้นมีความยาวโดยรวมมากกว่าผ้าเฉลียงที่จะนำมาทำเป็นกุ๊น..เราสามารถนำผ้าเฉลียงมาต่อกันได้ง่ายด้วยเทคนิคตามคลิปวีดีโอคะ
เทคนิคการเนาโดยใช้ช้อนกาแฟช่วย
มาดูเทคนิคการใช้ช้อนกาแฟ ช่วยในขั้นตอนการเนาก่อนการควิลท์ ....ว่าแต่ช้อนกาแฟจะเอามาช่วยยังไงน้อ...ไปดูกันคะ ^^
เทคนิคการสอยงานแอพฯ
มาดูเทคนิคการสอยงานแอพฯ กันคะ
วิธีเลือกเข็มและด้ายที่จะนำมาใช้ในงานสอย .
วิธีการสอยเพื่อไม่ให้เห็นด้ายแบบเนียนๆ
การเลือกใช้กรรไกรในงานผ้าที่แตกต่างกัน
กรรไกรที่เอ๋เ ลือกใช้สำหรับงานตัดใยอัดแผ ่น มีสองอันคะ อันใหญ่เอาใช้เวลาตัดใยแผ่น เวลาวางแบบตัด ส่วนอันล่างคือกรรไกรเอาไว้ ใช้เวลาเล็มใยให้ชิดรอยเย็บ ลักษณะกรรไกรทั้งสองอันจะคล ้ายๆ กันแตกแตกกันแค่เพียงขนาด
- มีลักษณะอวบหนา..ช่วยเพิ่มแ รงกดตัดลงบนใยแผน
- ปลายกรรไกรแหลมเพื่อให้ง่าย ต่อการเล็มตัด หรือขลิบได้ตรงจุดอย่างที่ต ้องการ
-คมกรรไกรจะมีรอยหยักทำให้ต ัดวัสดุหนาๆ ได้ดีโดยไม่ทื่อง่ายๆ
- มีลักษณะอวบหนา..ช่วยเพิ่มแ
- ปลายกรรไกรแหลมเพื่อให้ง่าย
-คมกรรไกรจะมีรอยหยักทำให้ต
เทคนิคการแก้ปัญหาการสอยประกบชิ้นงานที่ยาวไม่เท่ากัน
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะประสบปัญหาชิ้นส่วนท ี่จะนำมาสอยประกบกันนั้นมีค วามยาวไม่เท่ากัน..อันนี้จะ เป็นเทคนิคการแก้ปัญหาโดยไม ่ต้องเลาะคะ
สาปซิปกระเป๋าเป็นลูกคลื่น..เกิดจาก..
หลายๆ คนมักมีคำถามมาถามเอ๋ว่าทำไ มเวลาที่เย็บซิปติดกับสาปซิ ปแล้วผ้าสาป หรือซิปมักเป็นลักษณะเหมือน ลูกคลื่นไม่เรียบตรง?
นั่นเป็นเพราะขณะที่เราสอยซ ิปติดกับสาปนั้น เราจับผ้าและสอยไม่ถูกต้องน ั่นเอง จากรูปจะเห็นได้ว่าเวลาสอยไ ม่ควรจับให้สาปและซิปอยู่ใน ลักษณะโค้งงอ ไม่ว่าจะโค้งลง หรืองอขึ้นเพราะเมื่อเวลานำ ไปประกอบกระเป๋า ผ้าสาปอาจเป็นลักษณะลูกคลื่ นไม่เรียบตรง
วิธีที่ถูกต้องคือขณะสอยต้อ งจ้บผ้าสาป และซิปในแนวตรง เมื่อสอยเสร็จเราจะได้ชิ้นง านออกมาที่เรี่ยบตรงสวยคะ
วิธีที่ถูกต้องคือขณะสอยต้อ
เบสิคเบื้องต้นการใช้ไม้บรรทัดควิลท์วาดลายควิลท์
เคยสงสัยกันมั๊ยคะว่าทำไมบน ไม้บรรทัดควิลท์มีเส้นเยอะแ ยะมากมายเต็มไปหมด และแต่ละเส้นเอาไว้ใช้งานยั งไง อันนี้เป็นหนึ่งในประโยชน์ข องไม้บรรทัดควิลท์ ..การวาดลายควิลท์แบบหลามตั ด
2.สำหรับการวาดเส้นควิลท์เส ้นแรกลงบนชิ้นงาน ให้ทาบเส้นสามเหลี่ยมบนไม้บ รรทัดให้เสมอกับขอบบริเวณที ่เป็นแนวเส้นตรงบนชิ้นงานจา กนั้นลากเส้นตามสันไม้บรรทัด
3.สำหรับเส้นควิลท์ถัดๆ ไป ให้ทาบเส้นระยะที่ต้องการลง บนเส้นแรกที่วาดไว้แล้ว เช่น ต้องการเส้นควิลท์กว้าง 35 mm ก็ทาบเส้น 35 mm (ระบุอยู่บนไม้บรรทัด) ให้ตรงกับเส้นแรกที่วาดจากน ั้นก็ลากเส้นตามแนวสันไม้บร รทัด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนทั่วชิ้นงาน
4.สำหรับการวาดเส้นตัดขวางเ ส้นแรก ...บนไม้บรรทัดจะมีเส้นขวาง อยู่ ให้ทาบเส้นตัดขวางนี้ เส้นใดเส้นหนี่งให้ตรงกับเส ้นควิลท์ที่เราวาดเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ ลากเส้นตามสันไม้บรรทัด เราก็จะได้ลายควิลท์ที่เป็น เส้นตัดขวางเส้นแรก สำหรับเส้นถัดๆ ไปให้ทำตามข้อ 3
1.บนปลายไม้จะมีเส้นทำมุมสา มเหลี่ยมอยู่นะคะ เราจะใช้เส้นสามเหลี่ยมนี้เ ส้นใดเส้นหนึ่ง
2.สำหรับการวาดเส้นควิลท์เส
3.สำหรับเส้นควิลท์ถัดๆ ไป ให้ทาบเส้นระยะที่ต้องการลง
4.สำหรับการวาดเส้นตัดขวางเ
เทคนิคการต่อผ้าเฉลียงสำหรับทำกุ๊นขอบชิ้นงาน
เทคนิควิธีการต่อผ้าเฉลียงสำหรับนำไปทำเป็นผ้ากุ๊นขอบชิ้นงานต่างๆ คะ
วิธีการต่อผ้ากุ๊น
1. หันผ้าหน้าผิดขึ้น (ด้านที่วาดเส้นเผื่อเย็บ) ปลายผ้าที่จะต่อกันต้องเฉีย งไปในทางเดียวกันตามลูกศร และแนวเผื่อเย็บของทั้งสองช ิ้นต้องอยู่ชิดกัน (หรือตรงข้ามกันก็ได้ แต่ต้องไม่อยู่ในแนวที่เหมื อนกัน)
2. ชิ้น B ให้หงายหน้าถูกขึ้น วางซ้อนกันตามรูปให้ได้มุม 90 องศา ลากเส้นตรงจากจุดตัดผ้าสองด ้าน แล้วเย็บ
3. เมื่อเย็บเสร็จแล้วพลิกชิ้น A ขึ้นจะได้ตามรูป ขอบผ้ากุ๊นจะเป็นแนวเส้นตรง พอดี
4. และเมื่อพลิกผ้าหน้าผิดขึ้น ก็จะเห็นว่าแนวเผื่อเย็บของ ทั้งสองชิ้นจะต่อเสมอเป็นแน วเดียวกันพอดี
วิธีการต่อผ้ากุ๊น
1. หันผ้าหน้าผิดขึ้น (ด้านที่วาดเส้นเผื่อเย็บ) ปลายผ้าที่จะต่อกันต้องเฉีย
2. ชิ้น B ให้หงายหน้าถูกขึ้น วางซ้อนกันตามรูปให้ได้มุม 90 องศา ลากเส้นตรงจากจุดตัดผ้าสองด
3. เมื่อเย็บเสร็จแล้วพลิกชิ้น
4. และเมื่อพลิกผ้าหน้าผิดขึ้น
เทคนิคการกุ๊นเข้ามุมโค้ง
เทคนิคการเข้าโค้งบริเวณมุม ..จับขอบกุ๊นเสมอกับขอบชิ้น งานพอดี (B) และจะสังเกตุได้ว่าแนวเผื่อ เย็บก็ต้องโค้งรับกับแนวขอบ เช่นกัน (C) ที่สำคัญคือให้ใช้เข็มหมุดห ัวเล็กตรึงยึดแนวบริเวณมุมใ ห้เป็นแนวรัศมีดังรูปแล้วจึ งค่อยเย็บตามเส้นเผื่อเย็บ (7 mm) เมื่อตลบสอยไปอีกด้าน เราจะได้มุมโค้งสวยได้รูปคะ
ใยอัดแผ่นชนิดต่างๆ ที่ใช้ในงานควิลท์
ใยโพลีอัดแผ่น..สำหรับทำชิ้ นงานควิลท์ต่างๆ แบ่งเป็นหลายชนิดด้วยกัน ...แต่ที่นำมาให้ดูเป็นตัวอ ย่างของใยแผ่นที่นิยมทำกระเ ป๋ากันในปัจจุบัน
-สำหรับใยอัดแผ่นธรรมดาทั่ว ๆ ไป ทั้งสองด้านจะเหมือนกันคือม ีผิวแผ่นใยจะมีลักษณะใยขาวๆ อัดแน่นเป็นแผ่น เวลาลูบจะนุ่มมือเล็กน้อย ใช้สำหรับทำกระเป๋าทั่วๆ ไป ความหนามีหลายชนาด
- สำหรับใยอัดแผ่นแบบมีลามิเน ต..ด้านนึงจะมีลักษณะเหมือน แบบแรก แต่อีกด้านจะมีแผ่นลามิเนตต ามรูป...
- ใยสปริงหรือใยเด้งดึ๋ง เป็นใยอีกหนึ่งชนิดที่คนนิย มกันในปัจจุบันเพราะควิลท์ง ่ายไม่ต้องออกแรงงัดมากเท่า ใยชนิดอื่นที่มีความหนาเท่า กัน มีคุณสมบัติคืนรูป ไม่ห่อตัวสามารถทำไปทำได้ทั ้งชิ้นงานเล็ก และชิ้นงานขนาดใหญ่
สำหรับขนาดความหนาของใยอัดแ ผ่นก็มีหลายขนาดด้วยกัน ..อันนี้เป็นเพียง 3 ขนาดตัวอย่างที่เอ๋นำมาเปรี ยบเทียบให้ดูถึงความแตกต่าง ในแต่ละขนาด จริงๆ มันมีความหนาตั้งแต่ 100 – 350 g +++
- ขนาด 350 g จะเป็นขนาดที่มีความหนาเป็น พิเศษใช้ทำชิ้นงานที่ต้องกา รความอยู่ทรงมาก แต่อาจควิลท์ยากนิดนึง
- ขนาด 220 g -240 g จะเป็นขนาดที่นิยมใช้กันมาก ที่สุด เหมาะสำหรับนำมาทำชิ้นงานเล ็กๆ จนถึงใหญ่ ควิลท์ไม่ยากมาก และหากต้องการให้อยู่ทรงก็เ ลือกใช้แบบที่มีลามิเนตด้วย ก็ดีคะ
- ขนาด 120g จะค่อนข้างบางมากๆ ใช้สำหรับทำชิ้นงานที่ไม่ต้ องการอยู่ทรง หรือใช้ทำกระเป๋าที่ต้องการ ให้มีรูปทรงพริ้วไหว หรือทิ้งตัว หรือนำมาทำชิ้นงานเล็กๆ อย่างเช่น key cover เป็นต้นคะ
นอกเหนือจากใยดังกล่าวข้างต ้นแล้ว..ก็ยังมีใยกาวที่ใช้ สำหรับนำมาทำกระเป๋าปิ๊กแป๊ ก ใช้สำหรับรีดทับลงบนผ้า ไม่ต้องเนา หรือควิลท์
-สำหรับใยอัดแผ่นธรรมดาทั่ว
- สำหรับใยอัดแผ่นแบบมีลามิเน
- ใยสปริงหรือใยเด้งดึ๋ง เป็นใยอีกหนึ่งชนิดที่คนนิย
สำหรับขนาดความหนาของใยอัดแ
- ขนาด 350 g จะเป็นขนาดที่มีความหนาเป็น
- ขนาด 220 g -240 g จะเป็นขนาดที่นิยมใช้กันมาก
- ขนาด 120g จะค่อนข้างบางมากๆ ใช้สำหรับทำชิ้นงานที่ไม่ต้
นอกเหนือจากใยดังกล่าวข้างต
เทคนิคการเตรียมชิ้นส่วนผ้าสำหรับงานต่อ Patchwork
เป็นคนนึงคะที่ชอบใช้ปากกาเ ขียนผ้า (แบบลบออกด้วยน้ำหรือความร้ อน) สำหรับการวาดแบบและการวาดลา ยควิลท์ ...แต่ขอบอกว่ามันไม่เหมาะเ ลยสำหรับงานต่อผ้าแบบ Patchwork .. เพราะอะไรนะเหรอ??
ก็เพราะว่างาน Patchwork ส่วนใหญ่ต้องเตรียมชิ้นส่วน เยอะมากในการต่อลาย หากเราใช้ปากกาวาดเตรียมไว้ ..ต่อได้ไม่ทันได้ถึงครึ่งล าย..รอยปากกาที่วาดไว้ก็จาง หายไปซะแร่ะ
ฉะนั้นต้องเทคนิคนี้เลยคะ.. เทคนิคที่ได้รับคำแนะนำมาจา กครูญีปุ่น ซึ่งครูบอกไว้ว่าที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้ปากกาซัก เท่าไหร่ส่วนใหญ่จะใช้ดินสอ ในการวาดแบบและวาดลายควิลท์ มากกว่า ดินสอที่ใช้ก็คือดินสอธรรมด าทั่วๆ ไปนี่แหละคะ ...หากวาดลายควิลท์ก็จะวาดก ันแบบเบาๆ ให้พอเห็นลาย จะไม่เข้มมากนัก
เอาล่ะ..มาดูเทคนิคการเตรีย มชิ้นส่วนสำหรับการต่อผ้าดี กว่าคะ ^^
2. ใช้ดินสอกด หรือเหลาดินสอให้แหลม...ทาบ ไม้บรรทัดแล้ววาดเส้นตรงของ แต่ละมุมให้เชื่อมต่อกัน ..แค่นี้เราก็จะได้ชิ้นส่วน ผ้าต่อแบบเป๊ะสุดๆ
3. หลังจากนั้นจึงค่อยวาดเว้นร ะยะเผื่อเย็บ 7mm แล้วตัดชิ้นส่วนเตรียมไว้ รอยแบบก็จะไม่จางหายไป ..ต่อให้ดองงานไว้นานแค่ไหน ลายวาดบนชิ้นส่วนก็ไม่หายเม ื่อมีอารมณ์อยากต่อผ้าก็หยิ บงานมาทำต่อได้โดยไม่กังวล ...และไม่ต้องกลัวว่าจะมองเ ห็นดินสอเลอะเทอะเมื่อต่อผ้ าเสร็จ เพราะรอยวาดจะซ่อนอยู่ด้านใ นและต้องประกบ 3 ชั้นเวลาควิลท์ทำให้มองไม่เ ห็นรอยดินสออยู่แล้วคะ
จากนั้นค่อยนำชิ้นส่วนแต่ละ ชิ้นไปเย็บต่อเป็นลายต่างๆ และจากข้อ 1 นั่นเองถือเป็นเทคนิคนึงที่ จะช่วนทำให้งานต่อผ้าออกมาไ ด้มุมเป๊ะ เพราะแบบชิ้นส่วนวาดได้เป๊ะ ตั้งแต่แรก..แต่ทั้งนี้ทั้ง นั้นต้องอิงกับการเย็บต่อกั นด้วยนะคะ เวลาประกบเย็บควรให้มุมผ้าต รงกันด้วย ^^
ก็เพราะว่างาน Patchwork ส่วนใหญ่ต้องเตรียมชิ้นส่วน
ฉะนั้นต้องเทคนิคนี้เลยคะ..
เอาล่ะ..มาดูเทคนิคการเตรีย
1. นำแบบมาทาบลงบนผ้าหน้าผิด.. .จากนั้นให้ใช้ปากกาหรือดิน สอจุดมาร์คตรงมุมทุกมุม..อย ่าลากวาดจุดชนกันเลยทันทีเพ ราะแรงกดขณะลากเส้นจะทำให้ผ ้าขยับตัวไปมามุมผ้าจะเหลื่ อมออกไปจากจุดเดิม..เมื่อชิ ้นส่วนเหลื่อมไปแค่แม้แต่มิ ลเดียวก็จะส่งผลถึงลายต่อผ้ าโดยรวมให้เบี้ยวได้คะ..นี่ คือเทคนิคสำคัญที่ช่วยทำให้ ได้ลายต่อผ้าแบบมุมเป๊ะๆ ^^
2. ใช้ดินสอกด หรือเหลาดินสอให้แหลม...ทาบ
3. หลังจากนั้นจึงค่อยวาดเว้นร
จากนั้นค่อยนำชิ้นส่วนแต่ละ
เทคนิคการแอพฯ งานที่เป็นมุมแหลม
เทคนิคการแอพฯงานที่เป็นมุม แหลม ..อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวเ อ๋เอง หลายๆ ครั้งมักพบปัญหาว่าเวลาแอพฯ ชิ้นงานที่เป็นมุมแหลมๆ แบบนี้ทำได้ยากมากๆ ไม่นูนหนา ก็ผ้าหลุดรุ่ยไม่ได้รูปทรง เอ๋เลยลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ จนพบวิธีการนี้คะ
a วาดแนวแอพฯ ลงบนผ้าหน้าถูก บริเวณที่เป็นมุมแหลม ให้ตัดมุมทิ้งแต่อย่าให้ชิด ติดกับมุม ให้เว้นห่างออกมาประมาณ 3 mm
b พับปลายผ้าลง (ทางผ้าหน้าผิด)ให้ชนมุมพอด ี
c พับขอบทางซ้ายตามแนววาดทบไป ด้านหลัง
d พับขอบทางขวาตามแนววาดทบไปด ้านหลัง
e จากนั้นนำไปทาบวางบนชิ้นงาน ที่ต้องการแอพฯ และสอยตามแนววาด
f เมื่อสอยเสร็จเราจะได้งานแอ พฯ ที่ทำมุมแหลมสวย ไม่นูนหนา และไม่หลุดรุ่ยคะ
a วาดแนวแอพฯ ลงบนผ้าหน้าถูก บริเวณที่เป็นมุมแหลม ให้ตัดมุมทิ้งแต่อย่าให้ชิด
b พับปลายผ้าลง (ทางผ้าหน้าผิด)ให้ชนมุมพอด
c พับขอบทางซ้ายตามแนววาดทบไป
d พับขอบทางขวาตามแนววาดทบไปด
e จากนั้นนำไปทาบวางบนชิ้นงาน
f เมื่อสอยเสร็จเราจะได้งานแอ
เทคนิคการกลับผ้ามุม V ไม่ให้เกิดรอยรั้ง
เทคนิคการกลับมุม V ไม่ให้ผ้ารั้งตึง
เคยเป็นกันมั๊ยคะเวลาที่เรา
2 รูปบน..เป็นวิธีการที่ผิด ไม่ขลิบมุมก่อนกลับผ้า หรือขลิบน้อยเกินไปเมื่อกลั
2 รูปล่าง..เป็นวิธีการที่ถูก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)